เวลาทำการ

11.00 - 20.00 วันอังคาร - วันอาทิตย์

ติดต่อสอบถาม

phone 064-654-6414
login

กำจัดสารพิษโลหะหนักออกจากร่างกาย เพื่อฟื้นฟูหลอดเลือด และลดความเสี่ยงของการเกิดโรค 

ปัญหามลภาวะมลพิษในอากาศทั้งฝุ่นและเขม่าควันในปัจจุบัน ตลอดจนการปนเปื้อนของสารพิษในอาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง ของเล่นเด็ก และของใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน ล้วนแต่มีโอกาสทำให้ร่างกายได้รับสารโลหะหนักจากวัตถุดิบหรือกระบวนการผลิต ตลอดจนภาชนะบรรจุ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เมื่อรับโลหะหนักหรือสารพิษที่เป็นส่วนเกินเข้าสู่ร่างกาย สารเหล่านี้จะเกาะสะสมตามผนังหลอดเลือด หรือตกค้างในน้ำเลือด ทำให้เกิดปัญหาผนังหลอดเลือดอักเสบ ขรุขระ เส้นเลือดแข็งหรือตีบแคบ อุดตัน ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนโลหิตไม่ดี ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด และโรคความเสื่อมตามอวัยวะต่าง ๆ 

LINE_ALBUM_CHELATION THERAPY_๒๑๑๒๐๓_4

LINE_ALBUM_CHELATION THERAPY_๒๑๑๒๐๓_3

 

เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อมเข้ามาโดยไม่รู้ตัว และเกิดสะสมมากขึ้นจะทำให้ร่างกายผลิตสารอนุมูลอิสระที่ส่งผลเสียต่อระบบทำงานของร่างกาย ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ซึ่งสารพิษที่เป็นสาเหตุปัญหาสุขภาพนั้นมีหลายประเภท ดังนี้ 

  • สารพิษจากสารเคมี ได้แก่ สารปรุงแต่งอาหาร (ทั้งสี กลิ่น รส) ผงชูรส เครื่องสำอาง เช่น แชมพู ยาย้อมผม ลิปสติก ยาทาเล็บ หรือแม้แต่ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งสารพิษเหล่านี้สามารถเข้าทางปาก ทางศีรษะ ทางผิวหนัง ผ่านเข้าทางหลอดเลือดฝอยเข้าไปสะสมในตับ 
  • สารพิษจากโลหะหนัก ได้แก่ ควันรถ ควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ยาฆ่าแมลง สารตะกั่ว โลหะหนัก หากมีการสะสมของสารพิษประเภทนี้เป็นจำนวนมากอาจส่งผลให้เกิดอาการทางระบบสมองได้ 
  • สารพิษจากฟอร์มาลีน ได้แก่ อาหารทะเลแช่แข็ง ผักและผลไม้ที่สดกรอบเกินไป ภาชนะบรรจุอาหารหรือเครื่องดื่ม ถุงใส่อาหารร้อน เป็นต้น 

 LINE_ALBUM_CHELATION THERAPY_๒๑๑๒๐๓_2

Chelation Therapy ขจัดสารพิษลดความเสี่ยงโรคร้าย 

 โดยการให้สารละลายที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนสังเคราะห์เรียกว่า EDTA ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ ผ่านทางหลอดเลือดดำ โดยทำหน้าที่สำคัญในการจับสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู หรือแม้แต่แคลเซียมส่วนเกินที่สะสมตกค้างในเนื้อเยื่อ และพอกอยู่ตามผนังหลอดเลือดของเรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อผนังเซลล์และผนังหลอดเลือด เพื่อขจัดออกจากร่างกายทางระบบปัสสาวะและระบบขับถ่าย ช่วยรักษาอาการอักเสบของหลอดเลือด ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น การดีท็อกซ์สารพิษโลหะหนักออกจากร่างกาย ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญของเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging)  เพื่อนำไปสู่ภาวะสุขภาพที่สมบูรณ์สูงสุด 

 

Chelation Therapy มีประโยชน์อย่างไร 

  • ขจัดสารพิษตกค้างในร่างกายและระบบหลอดเลือด 
  • กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต 
  • บำบัดหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Arteries) 
  • ลดความดันโลหิต 
  • ลดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ 
  • ลดอาการโรคภูมิแพ้ 
  • บำบัดเส้นเลือดปลายแขน ปลายขา 
  • ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด 
  • ลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง 
  • ลดอาการของโรคอัลไซเมอร์ 
  • ลดปริมาณการใช้อินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน 
  • เพิ่มความไวในการรับสัมผัส เช่น การรับรส การมองเห็น และการได้ยิน 
  • ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ 
  • บำบัดภาวะเหนื่อยเมื่อยล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome) 
  • ป้องกันโรคความเสื่อมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากระบบหมุนเวียนไม่ดี เช่น สมองขาดเลือดไปเลี้ยง โรคเบาหวาน ภาวะภูมิเพี้ยนต่าง ๆ เช่น รูมาตอยด์ LINE_ALBUM_CHELATION THERAPY_๒๑๑๒๐๓_1

 

การเตรียมตัวก่อนทำ Chelation Therapy 

  • ตรวจวัดระดับของโลหะหนัก และประสิทธิภาพการทำงานของไตก่อนเริ่มบำบัด 
  • รับประทานอาหาร 2 ชั่วโมงก่อนตรวจ ไม่งดมื้ออาหาร แต่งดอาหารมัน ของทอด 
  • ก่อนทำ Chelation Therapy ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ระหว่างทำ ควรดื่มน้ำหรือน้ำเป็นระยะ เพื่อกระตุ้นการขับออกของสารโลหะหนัก 
  • นอนหลับให้เพียงพอในคืนก่อนทำ Chelation Therapy 
  • รับประทานวิตามินตามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) แนะนำ 

Chelation Therapy เหมาะกับใคร 

  • ผู้ที่มีเส้นเลือดหัวใจตีบ 
  • ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง 
  • ผู้ที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด 
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีภาวะนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย 
  • ผู้ที่ตรวจพบสารพิษและโลหะหนักในร่างกายจำนวนมาก 
  • ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารรสหวานจัด มันจัด เนื้อสัตว์ ของทอด ปิ้งย่าง 
  • ผู้ที่มีภาวะเครียดอยู่เป็นเวลานาน 
  • ผู้ที่สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์มาก 
  • สตรีที่กำลังวางแผนการตั้งครรภ์

LINE_ALBUM_CHELATION THERAPY_๒๑๑๒๐๓_0

ระยะเวลาในการทำ Chelation Therapy    

ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อทำ Chelation Therapy เสร็จแล้วสามารถเดินทางกลับบ้าน และทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องนอนพัก 

 

Chelation Therapy ควรทำบ่อยแค่ไหน 

 สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพของหลอดเลือดโดยตรง อาจจะทำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ผู้ที่มีสุขภาพดีอยู่แล้ว และต้องการทำเพื่อชะลอวัย อาจทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และควรทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 10 ครั้ง เพื่อขจัดสารพิษให้ลดลงอยู่ในระดับที่ปลอดภัย โดยควรตรวจเลือดเพื่อวัดระดับสารพิษหลังทำครบ 10 ครั้ง เพื่อปรับแผนการรักษาตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) ให้เหมาะสมกับบุคคลนั้น ๆ ต่อไป